ปริศนาธรรมเรื่อง 'พุทธบรรพต'
![]() |
What are we doing today? |
“วิถีจิตและการบรรลุธรรม” เรากำลังตามหาอะไร.ธรรมเป็นรากฐานที่ลึกซึ้งของทุกศาสนา แม้ว่าองค์ประกอบภายนอกจะแตกต่างกันไปตามวัฒนธรรมก็ตาม การพัฒนาจิตถือเป็นเป้าหมายเดียวกันสำหรับทุกแนวทาง ความสงบทางใจคือปัจจัยสำคัญที่สุดในการปฏิบัติธรรม โดยไม่จำเป็นต้องอยู่ในสถานที่สันโดษในป่าอีกต่อไป ในการบำเพ็ญจิตให้บรรลุธรรม หลักธรรมคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นแกนหลักสำคัญ เพื่อให้เกิดปัญญาและช่วยชี้ทางธรรมที่ถูกต้องแก่ผู้อื่น การบรรลุธรรมและพุทธธรรมนั้นมีอยู่ภายในจิตใจของทุกคน ซึ่งสามารถกำหนดผลลัพธ์ได้ด้วยตนเองในสมัยก่อนที่ยังไม่มีเทคโนโลยีการสอนที่ซับซ้อน ครูบาอาจารย์มักใช้ "ปริศนาธรรม" เป็นเครื่องมือที่แยบคายในการกระตุกความคิดและนำพาศิษย์ไปสู่ความเข้าใจในหลักธรรมอันลึกซึ้ง วันนี้เราจะมาถอดรหัสปริศนาธรรมบทหนึ่งที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังยิ่ง นั่นคือเรื่อง 'พุทธบรรพต' ดั่งที่ครูอาจารย์ผู้เจริญได้กล่าวปริศนาธรรมบทนี้ไว้.
“พุทธสถิต ณ พุทธบรรพต พุทธบรรพต พบได้ในใจตน พุทธบรรพต มีอยู่กับทุกคน เกิดมรรคผล กำหนดได้ใต้นี้เอง”เราไปสำรวจและทำความเข้าใจความหมายที่ซ่อนอยู่ในถ้อยคำเหล่านี้ เพื่อค้นพบว่าการตื่นรู้นั้นอยู่ไม่ไกลตัวเราเลย
1 “พุทธสถิต ณ พุทธบรรพต”
เหตุใดครูอาจารย์จึงต้องใช้ปริศนา นั่นเพราะธรรมะคือ “วิถีจิตอันละเอียดอ่อนลึกซึ้งซึ่งไม่สามารถนึกคิดเอาเองได้” ดังนั้น ปริศนาธรรมจึงเป็นกุศโลบายที่ช่วยให้เราข้ามพ้นการคิดวิเคราะห์ตามตรรกะปกติ และกระตุ้นให้เกิดความเข้าใจอย่างลึกซึ้งจากภายในหากแปลตามตัวอักษรซึ่งอาจทำให้เราจินตนาการถึงภูเขาสักแห่งที่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ แต่จุดสำคัญของปริศนานี้คือการชวนให้เราขบคิดไม่ใช่สถานที่ทางกายภาพที่ต้องเดินทางไปแสวงหา แต่เป็นคำเปรียบเทียบถึงสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่อยู่ใกล้ตัวเรากว่านั้นมาก
2 “พุทธบรรพต พบได้ในใจตน”
หัวใจสำคัญครูบาอาจารย์กำลังเฉลยว่า "ภูเขา" ที่กล่าวถึงนั้น แท้จริงแล้วก็คือ 'จิตใจ' ของเราเองนี่แหละ การปฏิบัติธรรมจึงไม่ใช่การเดินทางไปหาวัตถุหรือสถานที่ภายนอก แต่คือการ "บำเพ็ญจิต" หรือ "การพัฒนาจิต" ของเราให้สูงขึ้นและบริสุทธิ์ขึ้นนั่นเอง3 “พุทธบรรพต มีอยู่กับทุกคน”
เมื่อเข้าใจแล้วว่าพุทธบรรพตคือจิตใจ ความนี้จึงขยายต่ออย่างชัดเจนว่า "ภูเขาแห่งการตื่นรู้" นี้ไม่ได้มีอยู่แค่ในพระอริยบุคคลหรือนักบวชเท่านั้น แต่เป็นศักยภาพพื้นฐานที่มีอยู่แล้ว ภายในตัวของทุกคน ไม่ว่าเราจะเป็นใคร มาจากไหน หรือมีสถานะอย่างไร เราทุกคนต่างมีศักยภาพที่จะพัฒนาจิตใจของตนเองให้ไปถึงซึ่งความหลุดพ้นได้เท่าเทียมกัน4 “เกิดมรรคผล กำหนดได้ใต้นี้เอง”
เป็นการสรุปผลลัพธ์ของการปฏิบัติ "มรรคผล" หรือความสำเร็จในการเข้าถึงธรรมนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอก อำนาจเหนือธรรมชาติ หรือการร้องขอจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดๆ แต่จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเราลงมือปฏิบัติที่ 'ใจ' ของเราเอง อำนาจในการสร้างความเปลี่ยนแปลงและนำพาตนเองไปสู่การตื่นรู้จึงอยู่ภายในตัวเราอย่างสมบูรณ์เป้าหมายสูงสุดของการปฏิบัติธรรมคือการ "เกิดปัญญาเข้าใจถูกเห็นถูกปฏิบัติถูก" ซึ่งทั้งหมดนี้มีจุดเริ่มต้นเดียวกัน คือการหันกลับมามองและพัฒนาที่จิตใจของตนเองเมื่อเราทราบแล้วว่าขุมทรัพย์แห่งปัญญาอยู่ที่ใด คำถามสำคัญต่อไปก็คือ เราจะเริ่มต้นค้นหาขุมทรัพย์นั้นในชีวิตประจำวันได้อย่างไร?
สำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นการเดินทาง
- เริ่มต้นที่ความสงบ: หลักธรรมชี้ว่า "ความสงบเป็นปัจจัยหลัก" ในสมัยก่อนอาจต้องเข้าป่าเพื่อหาความสงบ แต่ในปัจจุบันเราสามารถฝึกให้ใจสงบได้ในทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน ที่ทำงาน หรือระหว่างการเดินทาง การฝึกสมาธิหรือการมีสติรู้ตัวอยู่เสมอจึงเป็นก้าวแรกที่สำคัญที่สุด
- ยึดหลักธรรมที่ถูกต้อง: การเดินทางต้องมีแผนที่ฉันใด การปฏิบัติธรรมก็ต้องมีหลักยึดเหนี่ยวฉันนั้น เราควร "ยึดองค์ธรรมซึ่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสสั่งสอนไว้ดีแล้วเป็นหลักยึด" เพื่อให้การปฏิบัติของเราเป็นไปอย่างถูกต้อง ไม่หลงทาง
- เป้าหมายคือการพัฒนาจิต: พึงระลึกไว้เสมอว่าหัวใจของการปฏิบัติธรรมคือ "การพัฒนาจิต" (ซึ่งในทางธรรมนั้น ไม่รวมถึงการพัฒนาวัตถุสถาน) ทุกการกระทำของเราควรมุ่งเป้าไปที่การขัดเกลาจิตใจให้เกิดปัญญาและความบริสุทธิ์
- แบ่งปันสู่ผู้อื่น: จุดหมายของผู้ปฏิบัติธรรมโดยแท้จริงไม่ได้หยุดอยู่แค่การพัฒนาตนเอง แต่ยังรวมถึงการ "ช่วยให้ผู้อื่นรู้ ชี้ทางธรรมที่ถูกต้อง" เมื่อเราพบแสงสว่างในใจแล้ว การแบ่งปันแสงนั้นเพื่อนำทางผู้อื่น คือการปฏิบัติธรรมที่สมบูรณ์และเปี่ยมด้วยเมตตา
แสดงความคิดเห็น