ปราชญ์เล่าเราฟัง ตอน : พระเสาร์ตำนานเทพนพเคราะห์

ใช่...ดาวเสาร์มีผลกระทบต่อชีวิตผู้คน...

ไม่! อย่าคิดว่าดาวเสาร์ไม่ดีเสมอไป?...

เสียงช้าๆแต่ไม่เย็นชาสนทนากันบนโต๊ะกาแฟในสวน.... ตามตำนานในตำรากล่าวว่าพระเสาร์เป็นเทพเจ้าแห่งกสิกรรมและอารยธรรม ส่วนทางโหราศาสตร์ว่าพระอิศวรได้ทรงสร้างพระเสาร์จากพยัคฆ์สิบตัว ส่วนชนชาวอริยกะผู้สนใจในทางดาราศาสตร์ได้กำหนดดาวพระเคราะห์เป็นห้าเรียกว่าปัญจนาคามีพระเสาร์อยู่ในจำพวกปัญจนาคาองค์หนึ่งเป็นเทพประจำรักษาฤดูกาลคือฤดูวสันต์หรือใบใบผลิต้นฤดูฝนนั่นเอง ส่วนตำนานนพเคราะห์ว่าพระเสาร์กับพระราหูเป็นมิตรกันแต่เป็นศัตรูกับพระศุกร์และพระเสาร์กับพระอังคารยังเป็นศัตรูกันอีกดังนั้นมูลการพยากรณ์ทางโหราศาสตร์จึงถือเอาการโคจรของดวงดาวทั้งหลายเมื่อมาต้องกันเข้าเป็นบททำนายไปตามเรื่องราวนั้น (หนังสือเทวกำเนิดเขียนโดยพระยาสัจจาภิรมย์ฯ พิมพ์ครั้งที่ ๑๗ หน้าที่ ๗๖ สำนักพิมพ์อมรินทร์)

ปราชญ์ทำให้นามธรรมเป็นจริงมากขึ้นผู้รู้ครูอาจารย์โบราณได้บันทึกสิ่งเหล่านี้สิ่งที่ทำให้เกิดความท้าทายสำหรับนักวิทยาศาสตร์ในการศึกษาหรือหักล้าง ท่านว่าผู้ใดกำลังอยู่ในช่วงเวลาของดาวเสาร์(เสวยอายุ)ช่วงเวลานั้นจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตหากว่าบุคคลนั้นอยู่บนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณอยู่แล้ว(ดาวเสาร์)จะเป็นไปในทางที่ดีจะยกระดับชีวิตจิตใจของพวกเขาหากไม่ได้อยู่บนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณพระเสาร์จะสร้างปัญหาเพื่อที่จะได้นำพาสู่เส้นทางแห่งจิตวิญญาณหากผู้คนติดอยู่ในชีวิตทางโลกจนหลงพระองค์จะรบกวนเพื่อให้ออกจากที่นั่นเพื่อให้พบกับความมั่งคั่งภายในที่ใหญ่กว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับคนส่วนใหญ่พวกเขาตกงาน,ความสัมพันธ์,ชื่อเสียงผิดหวัง,เบื่อหน่ายและจากนั้นพวกเขาก็จะเริ่มค้นหาเส้นทางและคิดว่าจะไปที่ไหนอย่างไรดี? แล้วพวกเขาก็มาถึงเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ

ดาวเสาร์ใช้เวลาประมาณ ๓๐ ปี ในการโคจรรอบดวงอาทิตย์หนึ่งรอบ ดังนั้นดาวเสาร์จะคงอยู่ประมาณ ๒.๕ ปีในแต่ละกลุ่มดาวหรือแต่ละราศี ระยะเวลาสามารถขยายได้ถึง ๕ ปีหรือ ๗.๕ ปี นี่อาจเป็นเหตุผลที่ผู้คนรู้สึกสิ้นหวังที่จมอยู่ในช่วงระยะเวลานั้นนาน หากเรารู้ว่าชีวิตกำลังผ่านช่วงเวลาของดาวเสาร์แสดงว่ารอเวลาผ่านไป ช่วงรอจึงเกิดความรู้สึกอยากทำอะไรเพื่อให้ดีขึ้นฉะนั้นการหลงทางมีโอกาสเสมอถ้าไม่ได้เจอกัลยาณมิตร ท่านว่าทางที่ดีไม่ต้องทำอะไรเพื่อแก้ไขเพราะนั่นมันไม่ใช่สิ่งที่ต้องทำเพียงแค่เปลี่ยนการดำเนินชีวิตยกระดับจิตใจและทำสมาธิมากขึ้น ทั้งหมดนี้จะยกระดับเคลื่อนผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนั้นโดยไม่รู้ตัว มันเป็นเรื่องน่าทึ่งที่ได้รู้เกี่ยวกับพลังงานของดวงดาวและผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของสรรพสิ่งและตำแหน่งของดางดาวเป็นเพียงข้อบ่งชี้ไม่สามารถพูดได้ว่ามันจะเกิดขึ้นร้อยละร้อยเพราะมีองค์ประกอบอย่างอื่นที่มีความความประเสริฐยิ่งกว่าเป็นขั้นที่สูงกว่าความรู้โหราศาสตร์นั่นคือธรรมะ

มีนิทานเรื่องเล่าโบราณกล่าวว่ามีคู่สามีภรรยาที่ไม่มีบุตรเขาปรารถนาจะมีบุตร เขาจึงอธิษฐานขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์และในความฝันสิ่งศักดิ์สิทธิ์ถามพวกเขาว่าต้องการลูกแบบไหนลูกที่โง่เขลาอายุหนึ่งร้อยปีหรือลูกฉลาดที่มีชีวิตเพียงสิบหกปี พวกเขาเลือกลูกฉลาดที่มีชีวิตเพียงสิบหกปี และพวกเขาก็ได้บุตรชายสมใจปรารถนาและลูกชายเขาเป็นเด็กที่ฉลาดอัจฉริยะมาก เมื่อลูกชายเขาอายุสิบห้าปีเขาจะตายในอีกหนึ่งปีแน่นอนมันยากที่ผ่านช่วงเวลานั้นไปได้บุตรชายผู้ฉลาดหลักแหลมก็ได้เข้าสมาธิลึกเพื่อผ่านเวลาแห่งความกลัวนั้นแต่เมื่อเวลาผ่านไปเขาไม่ตายกลับมีชีวิตอยู่ต่ออีก ฉะนั้นผู้คนสามารถปรับหรือแก้ไขผลกระทบของพลังแห่งดวงดาวได้ด้วยการก้าวข้ามเวลา ก้าวข้ามจิตสำนึกของร่างกายและจิตสำนึกของลมหายใจ เช่น เมื่อเราหลับเราจะไม่รู้ถึงร่างกายขณะหลับไม่รู้ถึงลมหายใจและไม่ได้รับรู้โลกรอบตัวเรา เราอยู่เหนือสิ่งเหล่านั้นและเมื่อเราตื่นขึ้นมาจะเหมือนได้พลังงานเพิ่มขึ้นสดชื่นขึ้นเพราะขณะหลับมันนำพลังงานกลับเข้ามาในชีวิตของเรามากขึ้นกระทั่งแม้ความเจ็บป่วยส่วนใหญ่ของร่างกายเรารักษาให้หายได้เพียงแค่นอนหลับผักผ่อนเพราะว่าในการนอนหลับนั้นเราก้าวข้ามเวลาและสถานที่ แต่เราทำมันโดยไม่รู้ตัวหากเราทำสมาธิลึกมันมีพลังมากกว่าการนอนหลับ

ที่มา: เรื่องเล่าจากปราชญ์ผู้เจริญ...

แสดงความคิดเห็น

To Top