สัญญาต้องเป็นสัญญา

สัญญาเป็นการแสดงเจตนาของบุคคลตั้งแต่สองฝ่ายขึ้นไปและสามารถตกลงกันอย่างไรก็ได้ถ้าวัตถุประสงค์ของสัญญานั้นไม่ขัดต่อกฎหมายหรือความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนหรือพ้นวิสัย ดังนั้นตัวคู่สัญญาหรือตัวแทนใครก็สามารถทำสัญญากันได้เอง แม้ตกลงกันแค่คำพูดปากเปล่าไม่มีกระดาษสักแผ่นก็เป็นสัญญาได้แต่เมื่อเกิดข้อพิพาทขึ้นมาจะหยิบยกสัญญานั้นมาอ้างสิทธิปกป้องผลประโยชน์สุดท้ายตามเจตนาที่แท้จริงตามสัญญากันไว้นั้นได้หรือไม่อย่างไรเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง
แต่อย่างไรก็ตามแม้เราจะทำสัญญาที่เป็นลายลักษ์อักษรเป็นกี่สิบกี่ร้อยหน้าก็ตามหรือเพียงไม่กี่บรรทัดผลหรือค่าอาจจะเท่ากันก็ได้ตัวชี้วัดไม่ได้อยู่จำนวนหรือปริมาณข้อตกลงแต่อยู่ที่สาระสำคัญของเนื้อหาหรือเจตนาของคู่สัญญานั้นจะบังคับได้ตามกฎหมายหรือไม่ต่างหาก เพราะตามความเป็นจริงการทำสัญญาเมื่อเวลาผ่านกาลเปลี่ยนอะไรก็ย่อมเปลี่ยนได้ดังนั้นความแน่นอนกับไม่แน่นอนย่อมเดินมาด้วยกันเสมอ หากเป็นการตกลงในเรื่องสำคัญการให้ทนายความหรือผู้ที่มีความรู้ด้านกฎหมายพิจารณาร่วมก่อนก็จะเป็นการปกป้องผลประโยชน์สุดท้ายของสัญญาได้
แต่อย่างไรก็ตามแม้เราจะทำสัญญาที่เป็นลายลักษ์อักษรเป็นกี่สิบกี่ร้อยหน้าก็ตามหรือเพียงไม่กี่บรรทัดผลหรือค่าอาจจะเท่ากันก็ได้ตัวชี้วัดไม่ได้อยู่จำนวนหรือปริมาณข้อตกลงแต่อยู่ที่สาระสำคัญของเนื้อหาหรือเจตนาของคู่สัญญานั้นจะบังคับได้ตามกฎหมายหรือไม่ต่างหาก เพราะตามความเป็นจริงการทำสัญญาเมื่อเวลาผ่านกาลเปลี่ยนอะไรก็ย่อมเปลี่ยนได้ดังนั้นความแน่นอนกับไม่แน่นอนย่อมเดินมาด้วยกันเสมอ หากเป็นการตกลงในเรื่องสำคัญการให้ทนายความหรือผู้ที่มีความรู้ด้านกฎหมายพิจารณาร่วมก่อนก็จะเป็นการปกป้องผลประโยชน์สุดท้ายของสัญญาได้
เมื่อทุกฝ่ายยอมรับเสนอสนองถูกต้องตรงกันสัญญาเกิดเมื่ออีกฝ่ายไม่ปฏิบัติตามสัญญาก็ถือว่าเป็นฝ่ายผิดสัญญาอีกฝ่ายสามารถฟ้องร้องบังคับให้ปฏิบัติตามสัญญานั้นรวมถึงเรียกค่าเสียหายได้ด้วยหรือจะบอกเลิกสัญญาและเรียกให้ชำระค่าเสียหายแทนการปฏิบัติตามสัญญาก็ได้จบการเดินทางของเจตนา
แสดงความคิดเห็น