การใส่บาตรบุญเกิดก่อนทำ-ขณะทำ-หลังทำ
เพื่อไม่ให้พระผิดวินัย หลังจากเราใส่บาตรเสร็จยื่นหรือนั่งรับพรพระหรือจะไม่รับได้ไหม พระที่ท่านเดินบิณฑบาตเมื่อฆราวาสผู้ครองเรือนถวายอาหารเสร็จแล้วท่านก็จะให้พร (โบราณว่า “พรประจบ”) สมัยพุทธกาลไม่มีธรรมเนียมแบบนี้ “นิ่ง” เป็นหลัก
การเคารพธรรมเป็นสิ่งที่สมควรยิ่งเพราะพระธรรมเป็นสิ่งที่เลิศ การแสดงธรรมจึงต้องอยู่ในอิริยาบถที่สมควรสำหรับผู้แสดงและผู้ที่ฟัง ฉะนั้นการที่พระท่านยืนให้พร (ถือเป็นการแสดงธรรมอย่างหนึ่งถ้าพรที่ให้เป็นภาษาบาลีเป็นพุทธพจเป็นอรรถกถาเป็นคำที่มาจากพระไตรปิฎก) หากผู้ฟังนั่งรับพรอยู่ในอิริยาบถที่สบายกว่า ยกเว้นกรณีป่วยไม่สบาย พระภิกษุชื่อว่าไม่เคารพพระธรรมจึงเป็นอาบัติ(การล่วงละเมิดข้อห้าม)เพราะพระภิกษุอยู่ในอิริยาบถที่ลำบากกว่าแต่ผู้ฟังอยู่ในอริยาบทที่สบายกว่า โดยทั่วไปเราๆท่านๆทั้งหลายก็ย่อมเข้าใจว่าการนั่งยองๆหรือนั่งหมอบราบเลย เป็นการสำรวมกริยาที่เหมาะสมที่สุดแล้ว แต่นั่นอาจจะเป็นการทำให้พระท่านผิดวินัยโดยที่เราไม่รู้เลย
ทางที่ดีเมื่อเราใส่บาตรเสร็จก็บอกท่านว่าไม่ต้องให้พรก็ได้(แต่ใครจะกล้า55)หรือขณะพระท่านยืนให้พร เราก็ยืนรับพรหรืออาจเตรียมเก้าอี้ให้ท่านนั่งขณะให้พรแล้วเรานั่งกับพื้น คือทำให้อยู่ในอิริยาบถที่เสมอกันกับผู้แสดงธรรมหรือผู้แสดงธรรมอยู่ในอิริยาบถที่สบายกว่านั่นเอง กรณีที่ท่านไม่สวมรองเท้าเราก็ต้องไม่สวม แต่ถ้าท่านไม่ได้แสดงธรรมไม่ได้ให้พรหรือให้พรเป็นภาษาไทยเช่นเจริญรุ่งเรืองอยู่ดีมีสุขนะอาจจะไม่ใช่การแสดงธรรม เราจะยืนไหว้นั่งยอง ๆ ไหว้ หรือ กราบลงที่พื้นก็ได้
ส่วนกรณีที่พระท่านไม่สวมรองเท้าขณะออกบิณฑบาตเราท่านทั้งหลายก็สงสัยยุเหมือนกันแต่นั่นเพราะมีข้อวินัยบัญญัติการเข้าหมู่บ้านจะด้วยเหตุอันใดก็ตามต้องถอดรองเท้าเราจึงจะเห็นท่านเดินเท้าเปล่าในการออกเดินบิณฑบาตเพราะท่านต้องบิณฑบาตในหมู่บ้าน แต่ถ้าท่านอยู่ในวัดรับบิณฑบาตการใส่รองเท้าย่อมทำได้เพราะไม่มีข้อบัญญัติห้ามฉะนั้นจงอย่าพึ่งลุคิดไปเอาเองว่าเอ้าในวัดเป็นงี้นอกวัดเป็นงั้น อย่าตัดสินในสิ่งที่เรายังไม่รู้เหตุฯ การพัฒนาจิตจะไม่ก้าวหน้าจ้า.....
ที่มา : ครูผู้รู้
แสดงความคิดเห็น